แชร์

ไมเกรน เกิดจากอะไร?

อัพเดทล่าสุด: 13 มี.ค. 2025
40 ผู้เข้าชม

สาเหตุของการเกิดไมเกรน
ไมเกรน เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทและสมอง ที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าคนปกติ ส่งผลให้การหลั่งสารสื่อประสาทในสมองไม่สมดุลกัน จึงทำให้หลอดเลือดสมองบีบหรือคลายตัวมากกว่าปกติ และเกิดเป็นอาการปวดศีรษะแบบเป็นจังหวะตุบๆ ขึ้น โดยต้นเหตุที่ทำให้ระบบประสาทไวผิดปกติต่อสิ่งกระตุ้นนั้น มักสัมพันธ์กับอาการเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณ คอ ท้ายทอย หรือบริเวณบ่า



กล่าวคือเมื่อกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ท้ายทอย เกิดการหดเกร็ง จะเกิดปม Trigger point แทรกตามบริเวณมัดกล้ามเนื้อดังกล่าว และส่งผลให้เลือดไม่สามารถนำพาสารอาหาร และออกซิเจนขึ้นไปเลี้ยงศีรษะได้เต็มที่ ทำให้เส้นประสาทส่งสัญญาณได้ไม่สมบูรณ์ เกิดเป็นความผิดปกติในการไหลเวียนเลือดและการส่งสารสื่อประสาท และทำให้เกิดอาการปวด ตึงบริเวณ ขมับ หลังหู หน้าผาก กระบอกตา หัวคิ้ว ตามแนวของเส้นประสาทที่ทำงานไม่สมบูรณ์

อย่างไรก็ตามอาการไมเกรน นั้นเปรียบเสมือนความผิดปกติที่แฝงอยู่ ไม่ได้แสดงอาการตลอดเวลา แต่เมื่อมีปัจจัยต่างๆ มากระตุ้นเพียงเล็กน้อย อาการก็จะกำเริบขึ้นมา ซึ่งปัจจัยที่เป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดไมเกรนนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งผู้ป่วยอาจต้องหมั่นสังเกตุอาการของตนเอง ว่าปัจจัยใดที่กระตุ้นให้มีอาการ เพื่อหาทางหลีกเลี่ยง เราสามารถแบ่งปัจจัยที่กระตุ้นให้มีอาการไมเกรนหลักๆ ได้ดังนี้

1. ปัจจัยจากตนเอง

อารมณ์ที่รุนแรง เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล อารมณ์แปรปรวน
การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ หรือนอนไม่เป็นเวลา
ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในผู้หญิง จะสัมพันธ์กับช่วงมีรอบเดือน
การใช้สายตาที่ผิดสุขลักษณะบ่อยๆ


2. ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม

แสง เช่น แสงสว่างจ้า แสงสลัวๆ ที่ไม่เพียงพอต่อการใช้สายตา
เสียง เช่น เสียงดัง เสียงสูงแหลม
กลิ่น เช่น กลิ่นฉุน กลิ่นที่ไม่ชอบ
สภาพอากาศ เช่น อากาศที่ร้อนอบอ้าว หรือการอยู่ในห้องทึบที่ไม่มีอากาศถ่ายเท เป็นต้น


3. อาหารบางชนิด ได้แก่

คาเฟอีน ในเครื่องดื่ม เช่น ชา กาแฟ ซึ่งอาจมีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยอาการไมเกรนอาจเกิดขึ้น เมื่อร่างกายได้รับคาเฟอีนมากเกินไป หรือเมื่อร่างการต้องการเคเฟอีน
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจาก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นทำให้ร่างกายเกิดภาวะร่างกายขาดน้ำ (dehydration) จึงสามารถส่งผลให้เกิดอาการไมเกรนได้
ช็อกโกแลต เพราะในช็อกโกแลตมีส่วนผสมคาเฟอีนและสาร beta-phenylethylamine ซึ่งอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรน
ชีสต่างๆ เนื่องจากมีสารไทรามีน ที่เกิดจากการแตกตัวของโปรตีน สารไทรามีนนั้นเป็นสารที่สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการไมเกรน
เนื้อสัตว์แปรรูป อย่าง เบคอน ไส้กรอก หรือเนื้อสัตว์รมควัน เนื่องจากมีสาร ไนเตรต ที่สามารถกระตุ้นทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ หรือปวดไมเกรน
อาหารที่มีรสเค็มจัด เนื่องจากเมื่อมีเกลือ (Sodium) ปริมาณมากเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น และสามารถส่งผลให้เกิดอาการปวดหัว หรือปวดไมเกรนได้

อาการปวดไมเกรนนั้น อาจมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกันดังต่อไปนี้

1.ปวดศีรษะ ปวดขมับ ปวดหน้าผาก ปวดหลังหู ปวดกระบอกตา หรือปวดหัวคิ้ว โดยมากมักจะมีอาการเพียงข้างเดียว ซึ่งอาจสลับข้างไปมาซ้าย-ขวา แต่กรณีที่มีอาการเรื้อรังมานานหรือรุนแรง ก็อาจปวดทั้งสองข้างพร้อมกันได้
2.ลักษณะการปวดจะเป็นการปวดแบบตุ้บๆ (คล้ายเส้นเลือดเต้น) หรือปวดแบบตื้อๆ ตลอดเวลา
3.ในเคสที่มีอาการรุนแรง อาจมีอาการคลื่นไส้ หรืออาเจียน ร่วมด้วย
4.ในบางเคสอาจมีอาการผิดปกติด้านการมองเห็นร่วมด้วย ได้แก่ ตาพร่า เห็นแสงจ้า เห็นภาพเบลอ เป็นต้น
5.ระดับความรุนแรงของอาการปวดจะเริ่มได้ตั้งแต่ปวดเล็กน้อย พอรำคาญ จนไปถึงระดับที่รุนแรงมาก ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ ในบางรายจำเป็นต้องหยุดกิจกรรมทั้งหมดและนอนพัก เพื่อให้อาการปวดลดลง
6.อาการปวดไมเกรนสามารถกินระยะเวลาได้ตั้งแต่ 4 72 ชม
 
อาการปวดศีรษะที่ไม่ใช่อาการไมเกรน และควรรีบพบแพทย์หากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น

1.อาการปวดศีรษะที่มีอาการแขน-ขาอ่อนแรง ปากเบี้ยว ใบหน้าเบี้ยวร่วมด้วย ซึ่งอาจบ่งบอกถึงปัญหาที่มาจากสมองได้ เช่น โรคหลอดเลือดในสมองตีบ/แตก (Stroke) เป็นต้น
2.อาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง และเฉียบพลันแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งอาจบ่งบอกถึงภาวะหลอดเลือดสมองโป่งพอง
3.อาการปวดศีรษะรุนแรง คอแข็ง มีไข้ หนาวสั่น อาจบ่งบอกถึงภาวะเยื้อหุ้มสมองอักเสบ
4.อาการปวดศีรษะบ่อยและค่อยๆ รุนแรงมากขึ้น โดยอาจจะปวดมากขณะนอนหลับ จนทำให้ต้องตื่น หรือมีปัญหาด้านการสื่อสาร/การพูด/การเคลื่อนไหวร่วมด้วย ซึ่งอาจบ่งบอกถึงภาวะเนื้องอกในสมอง
5.อาการปวดศีรษะดังกล่าว ไม่ใช่สัญญาณของไมเกรน หากเริ่มมีอาการ ควรรีบพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุโดยเร็วที่สุด เพื่อการรักษาอย่างทันท่วงที

นอกจากการดูแลตนเองเบื้องต้นแล้ว การรักษาไมเกรนให้หายขาดในระยะยาวก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ป่วยควรให้ความสำคัญ เพราะยิ่งเริ่มต้นรักษาเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งรักษาได้ง่าย และได้ผลเร็วต่อตัวผู้ป่วยเอง ดังนั้นจึงไม่ควรละเลย หรือปล่อยให้อาการไมเกรนกำเริบอยู่บ่อยๆ โดยมิได้รักษา เนื่องจากอาการสามารถทรุดหนักจนทำให้เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตได้ในอนาคต

 

การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใส่ใจ และถ้าอยากมีตัวช่วยเสริมในการทำให้ร่างกายแข็งแรง ไร้โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ

เราขอแนะนำ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Beherb

ช่วยท่านได้เรื่องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม 

สนใจสั่งซื้อ โทร 061-587-8999 หรือแอดไลน์ @BEHERB99       


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy